ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

วิธีการสร้างรายได้แบบ passive income | ที่ยุคดิจิทัลต้องรู้

6 ไลฟ์สไตล์ที่ดีต่อสุขภาพ

      


     การมีไลฟ์สไตล์ที่ดีต่อสุขภาพ ในทุกๆวันของคนในยุคนี้ปฏิเสธไม่ได้เลย ก็คือ การหันมาดูแลสุขภาพแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการกิน การออกกำลังกาย และการนอนให้เป็นเวลา ซึ่งในปัจจุบันวัยหนุ่มสาว คนสูงอายุ ต่างก็หันมาดูแลสุขภาพด้วยการออกกําลังกาย และการกินอาหารที่มีประโยชน์ ดังนั้นเรามาดูว่าไลฟ์สไตล์ที่ดีต่อสุขภาพที่ทําให้ชีวิตเรามีความสุขนั้นมีอะไรกันบ้างมาดูกันเลย


1. การออกกำลังกายแบบต่างๆ
การออกกําลังกายนั้นมีหลายแบบมาก ไม่ว่าจะเป็นเวทเทรนนิ่ง คาร์ดิโอ  ปั่นจักรยาน และว่ายนำ ซึ่งโดยส่วนมากคนปัจจุบันหนุ่มสาว คนสูงอายุทั้งหลาย จะชอบแบบเวทเทรนนิ่ง  หรือคนที่ชอบลุยๆหน่อยก็จะออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ หรือปั่นจักรยาน ซึ่งไม่ว่าเราจะออกกําลังกายแบบไหนนั้นก็ล้วนทําให้เรามีสุขภาพที่ดีได้ ดังนั้นเราควรหันมาออกกําลังกายสร้างไลฟ์สไตล์ที่ดีต่อสุขภาพกันมากขึ้นกันเถอะ




2. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพก็เป็นการดูแลสุขภาพอย่างหนึ่งซึ่งจะทําให้เราดูดีตั้งแต่ภายในและภายนอกและในปัจจุบันนี้ไม่จะเป็นวัยหนุ่มสาว วัยทํางาน และวัยสูงอายุ ต่างหันมาดูแลสุขภาพใส่ใจในการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์มากขึ้น ดังนั้นเราควรใส่ใจในการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ให้มากๆ เช่น ควรรับประทานที่มีโปรตีน คาร์โบไฮเดรต ผักใบเขียวต่างๆ และควรลองทานอาหารคลีนดูบ้าง ส่วนอาหารที่เป็นของทอด มัน นําอัดลมต่าง หรืออาหารขยะ ควรทานให้น้อยหรืองดไปเลยยิ่งดีค่ะ เห็นไหมล่ะคะว่าถ้าอยากมีไลฟ์สไตล์สุขภาพที่ดีก็ลองทําตามกันดูนะคะ



3. นั่งสมาธิ
การนั่งสมาธิก็เป็นไลฟ์สไตล์ที่ดีต่อสุขภาพอย่างหนึ่ง จะช่วยให้ร่างกายเราได้พักผ่อน สงบผ่อนคลาย ทำให้จิตใจเราสงบไม่ฝุ้งซ่านและจะช่วยให้จิตใจของเรารับแต่พลังงานบวกเข้ามา ดังนั้นเราควรหันมาใส่ใจในการนั่งสมาธิกันเถอะ



4. การผ่อนให้เพียงพอ
การพักผ่อนให้เพียงพอนั้นสําคัญมากๆ เราควรนอนหลับสนิทให้เพียงพอหรือวันละ 7-8 ชั่วโมงต่อวัน และควรเข้านอน 3-5 ทุ่ม เพราะเวลานี้ระบบภูมิต้านทานโรคจะทํางานอย่างเต็มประสิทธิภาพ เวลาที่เราตื่นเช้ามาเราจะได้รู้สึกสดชื่น สมองปลอดโปร่ง และสามารถทํางานได้อย่างมีประสิทธิภาพ




5. อ่านหนังสือ
การอ่านเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการผ่อนคลาย และเป็นไลฟ์สไตล์ที่ดีต่อสุขภาพอย่างหนึ่งในปัจจุบันนี้คนรุ่นใหม่ส่วนมากจะเป็นสังคมก้มหน้าซึ่งติดสื่อโซเชียลในโทรทศัพท์มากกว่าซึ่งเข้าใจว่า ข้อดีนั้นมันอาจมีมากกว่า จะสะดวกกว่าเรียนรู้ได้เร็วกว่าแต่มันก็อาจจะมีข้อเสียด้วยเหมือนกัน ดังนั้นเราควรลองหันมาใส่ใจที่จะเป็นสังคมก้มหน้า"ในการอ่านหนังสือ"มากกว่าเป็นสังคม"ก้มหน้าดูโทรศัพท์" เพราะการอ่านหนังสือจะช่วยให้ผ่อนคลาย ช่วยฝึกสมาธิ และได้ฝึกทักษะการอ่านได้ด้วย



6. ออกไปใช้ชีวิตหรือหางานอดิเรกทํา
ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนในปัจจุบันนี้ถือได้ว่ามีหลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นการทํางานแต่ละอาชีพ บางคนก็ทํางานอาชีพเดียวหรือหลายอาชีพ ซึ่งบางทีเราอาจจะใช้ชีวิตกับการทํางานมากกว่าทําให้บางทีเราอาจจะเครียดกับงาน เครียดกับเพื่อนร่วมงาน และเครียดกับชีวิตในการทํางานทั้งหมด ดังนั้น เราควรออกไปใช้ชีวิต ไปพักผ่อน ไปเที่ยว หรือหางานอดิเรกที่ชอบทํา จะทําให้เราได้ผ่อนคลายความเครียดและได้เรียนรู้ในสิ่งใหม่ๆในระหว่างการเดินทางด้วย

จากที่กล่าวมาทั้งหมดใน 6 ข้อนั้น เห็นไหมว่าการมีไลฟ์สไตล์ที่ดีต่อสุขภาพนั้นง่ายนิดเดียวถ้าหากว่าเราลองหาเวลาว่างหันมาดูแลสุขภาพบ้าง ออกกําลังกาย ออกไปใช้ชีวิต ไปพักผ่อนบ้าง รับรองเลยว่าเวลาที่เรากลับมาทํางาน เราอาจจะมีประสิทธิภาพในการทํางานมากกว่าเดิมและสุขภาพดีก็จะตามมา




ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เคล็ด(ไม่)ลับ ที่จะทําอย่างไรให้ผมยาวเร็วภายในระยะเวลา 1 เดือน

  สาวๆหลายคนที่มีปัญหาผมยาวช้าหรือสาวๆบางคนที่กําลังไว้ผมสั้นตอนนี้อยากจะเปลี่ยนลุคไว้ผมยาวสลวยมีนํ้าหนักแบบเจ้าหญิงราพันเซล จะได้มัดใจหนุ่มๆทั้งหลายให้อยู่หมัด บอกเลยว่าเรามีเคล็ด(ไม่)ลับดีๆ ที่จะทําอย่างไรให้ผมยาวเร็วภายในระยะเวลา 1 เดือน ให้สาวๆมาฝากกันค่ะ  1.    ไข่ ต้องบอกก่อนว่าไข่มีโปรตีนสูงมากสามารถช่วยในการเร่งผมให้ยสวมเร็วขึ้นมีสารอาหารที่สําคัญต่อสุขภาพผม บอกได้เลยค่ะว่าถ้าหากเราได้กินอาหารที่เป็นโปรตีนสูงอย่างไข่ รับรองว่าสาวๆก็จะมีผมยาวสลวยอย่างเร็วที่สุดภายใน1-2 เดือน ค่ะ 2.    ถั่วลิสงและธัญพืชต่างๆ ภายในเมล็ดถั่วและธัญพืชไม่ว่าจะเป็นเมล็ดงา เมล็ดทานตะวัน เมล็ดฟักทองพวกนี้เต็มไปด้วยสารอาหารที่เรียกว่า ไบโอติน ช่วยบํารุงผิว บํารุงสุขภาพผมทําให้เส้นผมแข็งแรง มีสุขภาพดี และก็ทําให้ผมยาวเร็วอีกด้วยค่ะ   3.    นมถั่วเหลือง  สําหรับสารอาหารที่บํารุงผมที่สาวๆขาดไม่ได้เลยก็คือ นมถั่วเหลือง นั่นเอง โดยภายในนมถั่วเหลืองนี้จะมีสารไอโซฟลาโวนจะเป็นสารอาหารที่ช่วยทําให้ผมยาวเร็วขึ้น และทําให้ผมแข็งแรงมีสุขภาพดี ดังนั้นแนะนําเลยค่ะ สําหรับสาวๆที่ต้องการเร่งผมยาวอย่างรวดเร็วภายใน1 เด

กล้วยด่างมีกี่สายพันธุ์ | ทําไมกล้วยด่างถึงมีราคาพุ่งถึงหลักแสน

 เทรนด์ต้นไม้ยอดฮิตในตอนนี้ที่เป็นที่นิยมกันมากที่สุดก็ต้องยกให้เป็น "กล้วยด่าง" แล้วกล้วยด่างที่นิยมมากที่สุดมีกี่สายพันธุ์?|ทําไมกล้วยด่างถึงมีราคาพุ่งถึงหลักแสน? ต้องบอกก่อนเลยว่าต้นไม้ยอดฮิตที่มาแรงในเวลานี้ ต้องยกให้เป็นกล้วยด่าง แน่นอน เพราะว่านอกจากมีหลายสายพันธุ์ มีสีสันที่แปลกตา และลวดลายของใบที่สวยงามแล้ว ราคายังพุ่งสูงถึงหลักแสนกันเลยทีเดียว ซึ่งสายพันธุ์ของกล้วยด่างที่นิยมมากที่สุดมี 5 สายพันธุ์ คือ 1.  กล้วยด่างฟลอริดา เป็นไม้ล้มลุก ความสูงประมาณ 3-6 เมตร ไม่มีเนื้อไม้ ใบเดี่ยวรูปช้อน ปลายใบแหลมยาวมีติ่ง โคนใบมน ขอบเรียบ ใบสีเขียวมีด่างสีขาวหรือสีเหลืองตามแนวเส้นใบ ช่อดอกตั้ง แกนดอกสีเขียว มีกาบรองดอกสีเขียว 4-7 อัน เรียงเป็นสองแถวในแนวตั้งระนาบเดียวกัน  และมีลายเป็นเส้นสีขาวหรือสีเหลืองตามทางยาว นิยมขยายพันธุ์ด้วยการแยกกอและเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ ปลูกได้ในดินทุกชนิด แต่เจริญเติบโตได้ดีในดินที่มีการระบายน้ำได้ดี 2.  กล้วยตานีด่าง ลำต้นเทียมสูงประมาณ 4 เมตร เส้นผ่านศูนย์กลางลำต้นเทียมมากกว่า 15 ซม. สีของกาบลำต้นเทียมด้านนอกสีเขียวเข้มมีเส้นริ้วด่างขาว มีปื้

เคล็ด(ไม่)ลับในการเพิ่มความจำ-ลดความเครียดก่อนสอบ

           ในสัปดาห์ที่ไกล้จะถึงวันสอบนั้นน้องๆนักเรียนนักศึกษาบางคนอาจจะเครียดที่อ่านหนังสือไม่ทันและอ่านแล้วจําไม่ค่อยได้หรือจะเกี่ยวกับปัญหาต่างๆก็แล้วแต่ วันนี้พี่จะมาแนะนําเคล็ดลับ ในการเตรียมตัวก่อนสอบเพื่อเพิ่มความจําและลดความเครียดลงได้ ✴️ มาดูเทคนิคในการเพิ่มความจำ-ลดความเครียดก่อนสอบ ที่ทําแล้วได้ผลกัน✴️ 1. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เน้นโปรตีน ข้าวซ้อมมือ ขนมปังใบโฮลวีต นม ถั่ว และผักใบเขียว ทานอาหารให้ครบ5 หมู่ ไม่ควรเลี่ยงทานอาหารมื้อเช้า เพราะมื้อเช้าเป็นมื้อที่สําคัญในการเพิ่มความจำ   2. ออกกำลังกายวิธีนี้เป็นวิธีที่พี่ลองแล้วได้ผล เพราะว่าการออกกําลังกายนั้นสมองจะหลั่งสารเอ็นโดรฟินช่วยลดความเครียดและความกังวลได้มาก แล้้วยังช่วยให้ความจําดีและ สดใสขึ้นอีกด้วย 3. นั่งสมาธิ วิธีนี้ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยในเรื่องของความจํา ก่อนสอบเราอาจจะนั่งสมาธิสัก 10 นาที ก็ได้เพื่อให้สมองผ่อนคลายและมีสมาธิในการทําความเข้าใจกับข้อสอบมากยิ่งขึ้น        4. พักผ่อนให้เพียงพอ การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ยิ่งถ้าถึงเวลาไกล้จะสอบแล้วน้องๆนักเรียนนักศึกษาต้องอ่านหนังสือ